คาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (Carbon Footprint of Product: CFP)
การจัดทำคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์เป็นการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ปล่อยออกมาตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ใช้หลักการประเมินผลกระทบตลอดช่วงชีวิต ตั้งแต่การได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การใช้งาน และการกำจัดซากผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน เป็นการแสดงข้อมูลให้ผู้บริโภคได้ทราบว่า ตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์เหล่านั้นมีการปล่อยก๊าซเรือนกระจกออกมาปริมาณเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยในการตัดสินใจชื้อของผู้บริโภค เพื่อนำไปสู่การพัฒนาปรับปรุงกระบวนการผลิตสินค้า ให้มีการลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อันเป็นการช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลกด้วย เสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจ และก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ

คาร์บอนฟุตพริ้นท์อีเว้นท์ (Carbon Footprint of Event: CF-Event)
การประเมินคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของงานอีเว้นท์ เป็นการประเมินปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นระหว่างการจัดงาน ได้แก่ งานประชุม งานสัมมนา งานแสดงสินค้าการจัดกิจกรรมวิ่งมาราธอน เป็นต้น โดยคำนวณออกมาในรูปของคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ตั้งแต่ขั้นตอนการได้มาซึ่งวัตถุดิบ ขั้นตอนการบริการ และขั้นตอนการจัดการของเสีย เพื่อใช้เป็นแนวทางในการบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย และเป็นการแสดงข้อมูลแก่ผู้เข้าร่วมงาน รวมทั้งเป็นข้อมูลในการจัดทำคาร์บอนนิวทรัลอีเว้นท์

รู้จักกับโครงการ T-VER
โครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานของประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program: T-VER) คือ โครงการลดก๊าซเรือนกระจกที่องค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (อบก.) พัฒนาขึ้นเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือนกระจกในประเทศโดยความสมัครใจ และสามารถนำปริมาณการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้น ที่เรียกว่าคาร์บอนเครดิต ซึ่งภายใต้โครงการ T-VER นี้เรียกว่า “TVERs” ไปขายในตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจในประเทศได้ ทั้งนี้ อบก. ได้กำหนดหลักเกณฑ์และขั้นตอนในการพัฒนาโครงการ ระเบียบวิธีการในการลดก๊าซเรือนกระจก (Methodology) การขึ้นทะเบียนและการรับรองปริมาณก๊าซเรือนกระจก โดยจะต้องเป็นโครงการที่ก่อให้เกิดการลด/ ดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นภายในประเทศไทย

ข้อดีของโครงการ T-VER
1. เอกสารโครงการที่ต้องจัดเตรียมเป็นภาษาไทย
2. ระเบียบวิธีการลดก๊าซเรือนกระจกอ้างอิงจาก CDM แต่นำมาปรับให้มีวิธีการคำนวณและการติดตามผลที่ง่ายขึ้น
3. ผู้ประเมินภายนอกมีหลายกลุ่มนอกเหนือจาก DOE

ประโยชน์ของโครงการ T-VER
1. ลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน
2. เพิ่มแหล่งกักเก็บก๊าซเรือนกระจก มีรายได้เพิ่มจากการซื้อ- ขาย
3. ปริมาณการลด / ดูดซับก๊าซเรือนกระจกที่เกิดขึ้นจากโครงการ
4. สร้างภาพลักษณ์ที่ดีต่อองค์กร

โดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านกลยุทธ์ธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความเชี่ยวชาญในการประเมินการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามประเภทโครงการในสาขาการผลิตและใช้พลังงานอุตสาหกรรม และสาขาป่าไม้และการเกษตรดังต่อไปนี้
1. การผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นจากระบบผลิตพลังงานร่วมเพื่อทดแทนระบบผลิตพลังงานแบบแยกส่วน (Power Generation and Chilled Water Supply from Combined Heat and Power to Replace the Separated System)
2. การผลติพลังงานไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (On-Grid Renewable Electricity Generation)
3. การปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล หรือการเพิ่มสัดส่วนการใช้ พลังงานหมุนเวียนสำหรับการผลิตพลังงานความร้อน (Switching of Fossil Fuel or Increasing of Renewable Energy Utilization to Generate Thermal Energy)
4. การติดตั้งระบบผลิตพลังงานความร้อนใหม่ทั้งระบบโดยใช้พลังงานหมุนเวียน (New Installation of Renewable Energy System to Generate Thermal Energy)
5. การปลูกป่าอย่างยั่งยืน (Sustainable Forestation)
6. การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากการทำลายป่าและความเสื่อมโทรมของป่าและการเพิ่มพูนการกักเก็บคาร์บอนในพื้นที่ป่าในระดับโครงการ (Reducing Emission from Deforestation and Forest Degradation and Enhancing Carbon Sequestration in Forest Area Project Level P-REDD+)
7. การปลูกป่าอย่างยั่งยืน โครงการขนาดใหญ่ (Large Scale Sustainable Forestation Project)